"บันทึกสถิติการเดินทางด้วยเรือคยัคที่ไกลที่สุดในเมืองไทย กับทีม Saraburi Canoe Club 6 เดือนกับการรอนแรมเิดินทางในแม่น้ำในเมืองไทย 5,000 กม. พร้อมอาสาสมัครนักคยัคจากทั่วประเทศ ร่วมติดตามและเป็นส่วนหนึ่งของสุดยอดการผจญภัยในเมืองไทย"

วันศุกร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2553

THAILAND RIVERS EXPEDITION PROJECT 2010


Thailand Rivers Expedition Project 2010

“RIVERS OF THE KINGDOM”

ความเป็นมาของโครงการ

ถ้าหากเราพูดถึงแม่น้ำในเมืองไทย ทุกคนคงปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่รู้จัก แต่ถ้าจะถามลึกลงไปอีกว่า แม่น้ำของประเทศของเราเป็นอย่างไร แม้แต่แม่น้ำที่อยู่ในพื้นที่ใกล้บ้านของเราเองเรากับให้ความสนใจกันน้อยไปด้วยซ้ำ บางคนอาจเห็นแม่น้ำแค่ช่วงสั้น ๆ บริเวณที่เราอาจจะเคยขับรถผ่านตอนไปทำงานหรือขับกลับบ้าน

บางครั้งในบางพื้นที่ บางแง่มุม อาจเป็นที่ซุกซ่อนความสวยงามของวิถีชีวิตความเชื่อ หรือความสวยงามตามธรรมชาติเอาไว้ ซึ่งยากนักที่คนทั่วไปจะได้รู้และได้เห็น บางแม่น้ำอาจจะเสื่อมโทรมจนแทบสูญหายเหลือเพียงก้นแม่น้ำแห้ง ๆ หรือดอนทรายที่อยู่ก้นแม่น้ำ

การเดินทางค้นหา และทำความรู้จักกับแม่น้ำในเมืองไทยจึงเกิดขึ้น จากแรงบันดาลใจของคนกลุ่มเล็ก ๆ เราเชื่อว่ายังมีสิ่งที่สวยงามยังซุกซ่อนและรอพวกเราเข้าไปทำความรู้จัก และนำสิ่งเหล่านั้นมาถ่ายทอดให้คนอื่น ๆ ที่ไม่เคยรู้มาก่อน

เพราะแม่น้ำเปรียบเสมือนสายเลือดที่หล่อเลี้ยงคนไทยมาตั้งแต่อดีตมาถึงปัจจุบัน การใช้ชีวิตของผู้คนริมฝั่งแม่น้ำล้วนมีมิติความสัมพันธ์กันอย่าแนบแน่นกับวิถีชีวิต ไม่ว่าตั้งแต่เกิดมา เติบโต ทำมาหากิน แหล่งอาชีพ แหล่งอาหาร รวมไปถึงพิธีกรรมในวันสุดท้ายของชีวิต

ทั้งมิติทางวัฒนธรรมในแต่ละเชื้อชาติ กลุ่มชน ชาติพันธ์ วัฒนธรรมวิถีชีวิตของผู้คนตลอดริมฝั่งน้ำมีมิติความหลายหลายเรียงร้อยกัน อย่างสอดคล้องกลมกลืน

หลังจากการพัฒนาเส้นทางคมนาคมขนส่ง และการพัฒนาทางเศรษฐกิจ และการขนส่งบนท้องถนน ยิ่งทำให้เราค่อย ๆ ถอยห่างออกจากวิถีชีวิตที่อาศัยสายน้ำเป็นเส้นเลือดหลัก การพึ่งพาและอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างแนบแน่นและพึ่งพา ทำให้เราอาจหลงลืมและละทิ้งรากเหง้าของเราไว้ เป็นเพียงดังเช่น รอยเท้าที่เดินจากมา

แม่น้ำในแต่ละพื้นทีลดบทบาทความสำคัญ ทางด้านเศรษฐกิจ ดูเหมือนว่าแม่น้ำจะค่อย ๆ ถอยห่างจากความสำคัญที่อยู่ในชีวิตประจำวัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งเหล่านี้กับวิถีชีวิตของเรากลับแยกกันไม่ออก

บางครั้งอาจทำให้คนเราหลงลืมรากเง้า วิถีชีวิต ความเข้าใจ ความเอื้ออาทรที่เคยมี ความผูกพันกับในธรรมชาติที่มีมายาวนาน ระหว่างธรรมชาติกับมนุษย์ ว่าเคยเอื้ออาทรกันอย่างไร

บางครั้งการกลับไปค้นหาอดีตของเรามันอาจเป็นทางรอดเดียวที่จะสามารถทำให้เราสามารถมองเห็นจุดตรงกลางที่ทำให้ ธรรมชาติกับมนุษย์สามารถอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนในอนาคต เหมือนเช่นอดีตที่เคยผ่านมาได้

เราหวังว่าในการเดินทางเราคงได้รับรู้ซึมซับ และส่งมอบความรู้สึกดี ๆ ที่พวกเราได้รับมาจากการเดินทางให้ทุก ๆ คนได้รู้ รวมไปถึงการบอกให้ทุกคนได้ช่วยกันดูแล และตระหนักถึงการดูแลแม่น้ำของตัวเองให้ดีที่สุด ซึ่งสิ่งนั้นอาจจะหมายถึง การดูแลตัวเองและอนาคตของลูกหลานของเรา


วัตถุประสงค์

1. เพื่อบันทึกสถิติการเดินทางด้วยเรือคยัคที่ไกลที่สุดในเมืองไทย บนเส้นทางกว่า 4,000 กม.บนลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลำน้ำสาขา

2. เพื่อสำรวจธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยว วิถีชีวิต วัฒนธรรมริมฝั่งแม่น้ำของลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลำน้ำสาขา ตั้งแต่ต้นน้ำมาจนถึงอ่าวไทย อาทิ แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำปิง แม่น้ำวัง แม่น้ำยม แม่น้ำน่าน แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำเจ้าพระยา

ผลที่คาดว่าจะได้รับ

1. ได้ทราบสถาณการณ์ ข้อมูล วิถีชีวิต แหล่งท่องเที่ยวในแง่มุมต่าง ๆ ของแม่น้ำในประเทศไทย

2. ทำให้คนทั่วไปเกิดความตะหนักในความสำคัญของเม่น้ำและช่วยกันรักษา

3. ทำให้เยาวชนเห็นตัวอย่าง มีแรงบันดาลใจในการทำประโยชน์เพื่อสังคม

ระยะเวลาการดำเนินงาน ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-สิงหาคม เป็นเวลา 6 เดือน


การประชาสัมพันธ์และการติดตามการสำรวจในโครงการ

การประชาสัมพันธ์ผ่านเวปไซด์ และ เวป Blog รวมไปถึงภาพถ่าย วีดีโอบันทึกการสำรวจ

http://thailandriverexpedition2010/blogspot.com

การเขียนสกู๊ปลงในหนังสือนิตยสาร อาทิ Nature explorer, NG ,สารคดี ฯลฯ

รายการสกู๊ปข่าว อาทิ ร่วมมือร่วมใจ ฯลฯ


การดำเนินโครงการ

1. ช่วงเดือนมกราคมเป็นช่วงการเตรียมงาน

2. การพายเรือสำรวจแม่น้ำจากต้นน้ำแต่ละสาย ระหว่างเส้นทางมีการแวะพักตั้งแค้มป์ และขึ้นบกถ่ายภาพ สำรวจแหล่งท่องเที่ยว วิถีชีวิตริมน้ำ วัฒนธรรม ประเพณีตลอดสองข้างทาง

3. เสร็จสิ้นการเดินทางในแต่ละวันจะมีการบันทึกการเดินทาง และอัพเดทข้อมูล การเดินทางถึงจุดใดบ้าง ลงภาพ วีดีโอลงในบล็อก http://thailandriverexpedition2010.blogspot.com

4. ระหว่างการเดินทางในแต่ละวัน ทุกคนสามารถติดตามการเดินทางได้โดยเข้าไปดูตำแหน่งการเดินทางในแต่ละวัน รวมไปถึงจุดที่น่าสนใจบนสองฝั่งแม่น้ำ จะทำให้ผู้ที่สนใจเข้ามามีส่วนร่วมในการเดินทาง

5. สำหรับผู้ที่สนใจจะเดินทางและมีเรืออยู่แล้ว สามารถร่วมพายเรือกับทีมสำรวจ ในช่วงสั้น ๆ ตามสะดวกโดยสามารถวางแผนการเดินทางได้จากแผนที่ที่อัพเดทในแต่ละวันใน Google map

6. หลังจากจบแม่น้ำแรกเรือจะถูกขนไปลงต้นน้ำในแม่น้ำต่อไปทางรถยนต์ โดยเว้นช่วงประมาณ 7 วันเพื่อพักผ่อนร่างกายก่อนพายต่อในแม่น้ำถัดไป


แม่น้ำใดบ้างที่พวกเราจะสำรวจช่วงแรกของโครงการ ?

ในเป้าหมายโครงการทั้งหมด 29 ลำน้ำทั่วประเทศ เปิดโครงการแรกเพื่อนำร่องโดยเลือกแม่น้ำที่ยาวเป็นอันดับต้น ๆ คือแม่น้ำในภาคเหนือและภาคกลาง ก็คือ ลุ่มน้ำเจ้าพระยาเป็นหลัก รวมใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 6 เดือน

แม่น้ำทั้งหมดในการดำเนินโครงการช่วงแรกมี 7 แม่น้ำดังนี้

1. แม่น้ำป่าสัก ระยะทางประมาณ 700 km ต้นน้ำอยู่ที่เทือกเขาเพชรบูรณ์ 1 อ.ด่านซ้าย จ.เลย ไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.อยุธยา ใช้ระยะเวลาในการพายเรือสำรวจประมาณ 20-30 วัน

2. แม่น้ำวัง ระยะทางประมาณ 430 km มีต้นน้ำอยู่ที่เทือกเขาผีปันน้ำ ในเขต อ.พาน จ.เชียงราย และปลายน้ำไหลไปบรรจบกับแม่น้ำปิงบริเวณ อ.บ้านตาก จ.ตาก ใช้ระยะเวลาในการพายเรือสำรวจประมาณ 11-15 วัน

3. แม่น้ำยม ระยะทางประมาณ 773 km. ต้นน้ำอยู่บริเวณเทือกเขาผีปันน้ำ อ.ปง จ.พะเยา และไหลไปรวมกับแม่น้ำน่าน ที่ อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ ใช้เวลาประมาณ 25-35 วัน

4. แม่น้ำน่าน ระยะทางประมาณ 815 km ต้นน้ำอยู่บริเวณเทือกเขาหลวงพระบาง อ.ปัว จ.น่าน และไหลไปรวมกับแม่น้ำปิง ที่ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ จนทำให้เกิด แม่น้ำเจ้าพระยา ใช้เวลาประมาณ 25-35 วัน

5. แม่น้ำปิง ระยะทางประมาณ 680 km ต้นน้ำอยู่ที่เทือกเขาแดนลาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ และไหลไปรวมกับแม่น้ำน่าน ที่ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ใช้เวลาประมาณ 20-30 วัน

6. แม่น้ำท่าจีน ระยะทางประมาณ 320 km เป็นแม่น้ำสายสำคัญที่สุดของจังหวัดสมุทรสาคร ต้นแม่น้ำมาจากแม่น้ำเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ไหลผ่านจังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดนครปฐม แล้วไหลลงสู่อ่าวไทยที่ตำบลท่าฉลอม อำเภอเมืองสมุทรสาคร ใช้เวลาประมาณ 10-15 วัน

7. แม่น้ำเจ้าพระยา ระยะทางประมาณ 380 km ต้นน้ำอยู่บริเวณที่แม่น้ำปิงและแม่น้ำน่านไหลมาบรรจบกันที่ ต.ปากน้ำโพ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ และไหลลงสู่อ่าวไทยบริเวณ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ใช้เวลาประมาณ 10-15 วัน

รายชื่อทีมงานและนักคยัคในโครงการ

1. หัวหน้าโครงการ นายอนุกูล สอนเอก

2. นักคยัค นายอนุกูล สอนเอก

นางสาวพักตร์ดีสร วงศ์หนองเตย

นายประทีป ขันเพ็ชร

3. ฝ่ายประสานงาน นายสัจจะ เฉลียวใจ

4. ประชาสัมพันธ์โครงการ นางสาวปรางค์ทิพย์ หีบเงิน

sponsor by

10 ความคิดเห็น:

  1. บทกวี - ใบไม้ป่า

    ใบไม้ร่วงหนึ่งใบในราวป่า
    ยังดีกว่าใบไม้เหลืองในเมืองหลวง
    ที่รอปลิดหล่นเปล่าประโยชน์ปวง
    เป็นด่างดวงดำเปื้อนในป่าคน

    ใบไม้ป่าร่วงแล้วได้เลี้ยงป่า
    ทิ้งลงมาเลี้ยงรากเลี้ยงลำต้น
    เหมือนแม่ให้นมลูกปลูกฝังจน
    ลูกเติบตนโตแทนเต็มแผ่นดิน

    เมื่อเมืองคนคับคั่งด้วยคนป่า
    คนดีก็ด้อยค่าเหมือนกรวดหิน
    เมื่อสัตว์ป่าสร้างป่าไว้หากิน
    สัตว์เมืองก็ต้องสิ้นวิสัยเมือง

    เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ เมื่อ : 22/03/2005 12:12 PM

    คัดลอกโดย อีบ้าเเห่งป่า

    ตอบลบ
  2. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  3. เป็นโครงการที่น่าสนใจมากๆเลยนะครับ ผมเองก็ไม่ค่อยมีประสบการณ์การพายเรือคยัคมากนัก แต่ก็พยายามหาเวลาออกไปพายอยู่เรื่อยๆ ยังขาดความรู้และเทคนิคการพายอีกมากมายอยากจะไปเรียนรู้ให้เป็นเรื่องเป็นราวก็ยังหาเวลาว่างไม่ได้มากนัก แต่ก็สนใจโครงการนี้มากๆ
    ยิ่งตอนนี้กำลังต่อเรือคยัค...ก็ติดกับปัญหาเรื่องวัสดุอุปกรณ์อยู่พอสมควร แต่ก็พยายามเลือกใช้สิ่งที่หามาได้ในจังหวัด
    ถ้ามีโอกาสดีๆคงจะได้ร่วมหาประสบการณ์กับโครงการดีๆแบบนี้ครับ
    แล้วจะติดตามข่าวสารของโครงการต่อไปนะครับ....

    ตอบลบ
  4. ที่จริงในเวปผมเคยโหลดมาเป็นวิธีต่อกับการอธิบายโครงสร้างกระดูกงูที่ทำด้วยไม้ครับ แล้วใช้ผ้าใบเย็บเป็นตัวหุ้มเรือ น่าสนใจดีเหมือนกันนะครับ

    ตอบลบ
  5. จะไปด้วยคนได้ไหมครับ?

    ตอบลบ
  6. ขอเเสดงความเห็นในส่วนของการเขียน proposal(ตามระเบียบวิพากย์งานวิจัย)
    1วัตถุประสงค์ เเละผลที่คาดว่าจะได้รับยังไม่สอดคล้องกันเท่าที่ควร
    ข้อหนึ่ง วัตถุประสงค์เขียนว่าเพื่อบันทึกสถิติ ผลที่เราได้รับอย่างนึงก็คือเราได้ข้อมูลทางสถิติด้วยค่ะ

    2.วัตถุประสงค์เขียนว่าเพื่อสำรวจธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยว วิถีชีวิต วัฒนธรรมริมฝั่งแม่น้ำของลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลำน้ำสาขา ตั้งแต่ต้นน้ำมาจนถึงอ่าวไทย อาทิ แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำปิง แม่น้ำวัง แม่น้ำยม แม่น้ำน่าน แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำเจ้าพระยา ข้าพเจ้าจะบอกว่าวัตถุประสงค์ที่ทำมีมาก เเต่ผลที่ได้รับกลับมีเพียงสองบรรทัด

    3. ผลที่คาดว่าจะได้รับในข้อสามเขียนว่าทำให้เยาวชนเห็นตัวอย่าง มีแรงบันดาลใจในการทำประโยชน์เพื่อสังคม เเต่ในวัตถุประสงค์ไม่มีเขียนไว้ว่าจะทำอะไรให้เยาวชนได้เห็น เเละเห็นได้ยังไง คือเยาวชนได้ร่วมเดินทางหรือได้รับชมภารกิจของท่านทางสื่อหรือทางใหน

    ในส่วนของการดำเนินงาน
    1 ในระยะการเตรียมงานควรเเจกเเจงด้วยว่า นอกจากการตรียมงาน
    เเล้วต้องเตรียมอะไรอย่างอื่นบ้างเช่น ....เพราะอ่านข้อเเรกเเล้วมาข้อสอง มันคือการลงมือพายเรือเลย จะทำให้การคำนวณงบประมาณเเละระยะเวลาที่ทำคลาดเคลื่อนได้
    นอกเหนือจากนี้เป็นเรื่องทางภูมิศาสตร์ที่ข้าพเจ้าไม่มีความรู้เรื่องดังกล่าว
    ไม่สามารถวิพากย์ได้

    ..........ข้อความข้างต้นข้าพเจ้าวิพากย์ตามงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ อาจไม่ถูกต้องตามงานวิจัยทางภูมิศาสตร์.....

    เป็นกำลังใจให้ค่ะ
    อีบ้าเเห่งป่า

    ตอบลบ
  7. ขอบคุณ คุณกื๋อ มากๆนะครับสำหรับข้อมูล พอจะมีลิงค์มัยครับ
    พอดีโดยส่วนตัวก็รวบรวมข้อมูลมาเยอะพอสมควรเรื่องการต่อเรือ
    ได้ของคุณกื๋อมาอีกคงจะดีไม่น้อบเลยทีเดียว

    สำหรับความคิดเห็นของคุณอีบ้าแห่งป่า ก็ดีนะครับโปรเจคจะได้แข็งแรงมากขึ้นอีก....

    สู้ต่อไปครับ ผมต่อเรือเสร็จเมื่อไหร่ ไปลุยด้วยคนครับ ตอนนี้มีแต่ oscar ของ feelfree อยู่ (แต่คิดว่าถ้าได้ไปร่วมก็คงเอาไปด้วยครับ)

    ตอบลบ
  8. เป็นกำลังใจได้อย่างเดียวค่ะ

    กำลัง"เงินไม่มี" ขออภัยมาณ.ที่นี้ด้วยนะคะ
    ..........................

    วิถีเเห่งฝัน วิถีเเห่งการฟันฝ่า
    วิถีเเห่ง"คนบ้า" กล้าที่จะฝ่าฟัน เก็บเกี่ยวเอา
    "ความไฝ่ฝันนั้นมาครอบครอง"

    ตอบลบ
  9. ยิ้มและศรัทธาคนมีฝัน
    สู้ สู้ นะคะ

    ตอบลบ